ความล้ำหน้าในการผลิตกระจกช่วยให้โครงการของคุณถูกรังสรรค์ออกมาได้อย่างสวยสดงดงาม อีกทั้งยังตอบโจทย์ด้านแนวทางการใช้พลังงานที่มีต่อโลกใบนี้ของคุณด้วย หรืออาจทำได้เกินคาดกว่านั้นก็ได้ แต่ก็ยังมีในด้านของ “มนุษย์” ที่จับต้องได้มากกว่าประสิทธิภาพของกระจก เช่น กระจกช่วยให้คุณนั่งสบายๆ ชมวิวอันกว้างขวางของพายุหิมะที่โหมกระหน่ำ ช่วยให้ห้องเรียนทั้งห้องเปี่ยมไปด้วยแสงธรรมชาติและมีผลการเรียนที่ดีขึ้น และทนต่อแรงกระแทกหนักๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ
อุณหภูมิห้องมีผลอย่างมากกับความสบายในแต่ละห้อง โดยจะสบายที่สุดเมื่อความต่างของอุณหภูมิระหว่างอุณหภูมิโดยรอบกับพื้นผิวของหน้าต่างและกำแพงนั้นไม่เกิน 5 °C/ 41 °F
กระจกที่กันความร้อนสมัยใหม่นั้นมี “ฉนวนกันความร้อนแบบโปร่งใส” ซึ่งช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้กับพื้นผิวภายในของกระจกเพื่อลดช่องลดไม่พึงประสงค์และรักษาความร้อนเอาไว้ นอกจากนั้นยังช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานอีกด้วย เพราะกระจกฉนวนกันความร้อนจะช่วยลดการสูญเสียความร้อนได้โดยสะท้อนความร้อนกลับเข้ามาในห้อง ดังนั้นอุณหภูมิที่หนาวเหน็บจะไม่เป็นอุปสรรคกวนใจคุณอีกต่อไปเมื่อจะนั่งเล่นหรือทำงานใกล้ๆ กับหน้าต่าง
อย่างไรก็ตาม ความร้อนที่มากเกินไปอาจทำให้พื้นที่นั้นไม่สามารถอยู่ได้ แม้เรายังคงเห็นว่ามีการนำกระจกขนาดใหญ่ไปใช้ในการออกแบบอาคารอยู่เรื่อยๆ แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่กระจกควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์ต้องช่วยให้มีพื้นที่ที่ผู้อยู่ภายในอาคารสามารถทำงาน เรียนรู้ หรือพักผ่อนได้สบายๆ
เมื่อรังสีดวงอาทิตย์ตกกระทบกระจก ส่วนหนึ่งของรังสีจะผ่านไปโดยไม่มีอะไรขวางกั้น ส่วนหนึ่งจะสะท้อนกลับออกไป และส่วนที่เหลือจะถูกดูดกลืนไว้ แต่คุณสามารถช่วยควบคุมจำนวนพลังงานแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเข้าไปภายในอาคารได้ด้วยกระจกและการเคลือบแบบต่างๆ
นอกจากนั้นกระจกประสิทธิภาพสูงยังสามารถช่วยจัดการกับแสงสะท้อนและแสงอัลตราไวโอเลตได้ด้วย พร้อมทั้งช่วยให้คุณได้รับแสงธรรมชาติเต็มที่อันสวยงามและสบายตา ถึงแม้ว่าคุณจะมองไม่เห็นแสง UV แต่การได้รับแสง UV เป็นระยะเวลานานก็อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์ซีดจางได้
หลายๆ คนรู้จักข้อดีของแสงธรรมชาติและทัศนียภาพภายนอกกันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะช่วยให้ทำผลสอบดีขึ้น ยอดขายของร้านเพิ่มขึ้น และช่วยให้เกิดสมาธิและใช้บรรเทาการใช้ยาแก้ปวด ผลกระทบของกระจกป้องกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่มีต่อการส่งผ่านพลังงานนั้นช่วยจัดการอุณหภูมิภายในได้ เราจึงได้เพลิดเพลินไปกับข้อดีต่างๆ เหล่านี้
กระจกประสิทธิภาพสูงที่มีค่าสัมประสิทธิ์การส่งผ่านความร้อนจากแสงอาทิตย์สูงหรือมีความสามารถในการเลือกแสงส่องผ่านสูงนั้นช่วยให้อาคารแต่ละแห่งนำแสงธรรมชาติมาใช้ได้แม้ในสภาพอากาศร้อนโดยมีความเสี่ยงที่อุณหภูมิจะสูงเกินไปน้อย
และผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ที่มีให้เลือกมากมายนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับสภาพอากาศหนาวด้วย หากเลือกกระจกประสิทธิภาพสูงได้เหมาะสมแล้ว ก็ช่วยให้อาคารใช้ประโยชน์จากการส่งผ่านความร้อนจากรังสีอาทิตย์ระหว่างวันที่อากาศหนาวแต่แดดแรงได้
นอกจากจะดีกับเราแล้ว แสงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ยังดีต่อการประหยัดพลังงานอีกด้วย การลดการใช้งานแสงประดิษฐ์และการช่วยให้ภายในอาคารอยู่สบายขึ้นนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของอาคารได้
รอบตัวเราเต็มไปด้วยเสียงต่างๆ นานา น่าเสียดายที่หลายๆ เสียงที่ชวนผ่อนคลายอย่างเสียงนกร้องหรือเสียงหัวเราะกลับถูกกลบด้วยเสียงรบกวนที่ไม่ค่อยอยากได้ยินเท่าไรนัก องค์การอนามัยโลกกล่าวไว้ว่า เสียงรบกวนที่มากเกินไปอาจรบกวนการนอนหลับ ก่อให้เกิดปัญหากับระบบหัวใจและจิตสรีรวิทยา และทำงานมีประสิทธิภาพน้อยลง
กระจกช่วยให้เราใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างสบาย ไม่ว่าในสภาพแวดล้อมโดยรอบแบบใดก็ตาม เสียงจะถูกส่งผ่านกระจกเพราะโมเลกุลเหล่านี้บีบอัดกันเองและกระจายการบีบอัดนั้นเป็นคลื่น ความเข้มของแรงดันและความผันผวน หรือก็คือระดับเสียง นั้นวัดเป็นเดซิเบล ค่าความสามารถในการลดเสียงระดับ 40 dB ของกระจกจะลดเสียงรบกวนภายนอกระดับ 70 dB (เช่น เสียงรถ) เหลือ 30 dB ภายในอาคาร
กระจกที่ดีช่วยรักษาความปลอดภัยได้ แต่ก็ยังดูสวยงามและโปร่งใสเช่นเดิม
กระจกจะแข็งแรงขึ้นเมื่อถูกทำความร้อนแล้วก็ทำความเย็นฉับพลัน ซึ่งทำให้เกิดแรงตึงถาวรในพื้นผิวที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กระจก โดยต้องรู้ว่ากระจกโฟลตนั้นต้องตัดและผลิตให้เสร็จก่อนกระบวนการทำความร้อน
กระจกเทมเปอร์ (นิรภัย) นั้นแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดา (ทั่วไป) ถึง 4 เท่า หากได้รับความเสียหาย กระจกเทมเปอร์ได้รับการออกแบบมาให้แตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ตัวอย่างการใช้งาน เช่น ในห้องอาบน้ำและในพื้นที่ที่เดินผ่านบ่อยๆ
กระจกกึ่งนิรภัยนั้นแข็งแรงกว่ากระจกทั่วไป 2 เท่า และทนต่อความเค้นทางความร้อนและความเสียหายที่ขอบได้ดี หากได้รับความเสียหาย กระจกกึ่งนิรภัยมักจะคงอยู่ในกรอบตามเดิม ซึ่งมักนำไปใช้เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการแตกร้าวของกระจกเนื่องจากความร้อนในการใช้งานกระจกลามิเนต
ความปลอดภัยของกระจกลามิเนตนั้นมาจากการเชื่อมต่อแบบถาวรของกระจกบานเดี่ยวอย่างน้อยสองบานที่มีวัสดุคั่นกลางที่เหนียว ยืดหยุ่น และทนต่อการฉีกขาดได้สูง หากได้รับความเสียหาย เศษกระจกจะติดอยู่ที่วัสดุคั่นกลางดังกล่าว ดังนั้นกระจกมักจะยังคงรูปเดิมเอาไว้ในกรอบตามเดิม กระจกลามิเนตช่วยเพิ่มความทนทานของหน้าต่างต่อการแตกร้าวจากลมแรง เศษขยะที่ปลิวไปมา และผู้บุกรุกได้เป็นอย่างดี